วันพุธที่ 8 กรกฎาคม พ.ศ. 2558

เค้าโครงโครงงานคอมพิวเตอร์

เค้าโครงโครงงานคอมพิวเตอร์


โครงงานคอมพิวเตอร์


กลุ่มที่ 3
รายชื่อสมาชิก : นายพชรพล  อภินันทชาติ  เลขที่ 9
                          นางสาวศศิธร  กาญจนกุล  เลขที่ 18
                          นางสาวกชลัด  มงคลอจลา เลขที่ 30
ชั้น ม.5/12

_____________________________________________________________________________

วิธีดำเนินการ  


1.เลือกหัวข้อโครงงานที่สนใจ               
2.ประชุมกันในกลุ่มเพื่อแบ่งหน้าที่ในการทำงาน และให้ทุกคนหาข้อมูลในการดำเนินงานครั้งนี้ ได้แก่

  •  ศึกษาข้อมูลปัญหาความสะอาดในโรงเรียน
  • ทำแบบประเมินเกี่ยวกับปัญหาความสะอาดในโรงเรียน
  • ศึกษาวิธีการสร้างหนังสั้น องค์ประกอบของหนังสั้น
  •  ศึกษาวิธีการเขียนบทที่ดีและมุมกล้องในการถ่ายทำ
  • ศึกษาโปรแกรมที่ใช้ในการตัดต่อและสร้างหนังสั้น
3.รวบรวมและเรียบเรียงข้อมูล วิเคราะห์ปัญหาและแนวทางแก้ไข
4.ร่างแบบเค้าโครงโครงงานอย่างคร่าวๆ
5.นำร่างเค้าโครงไปปรึกษาอาจารย์ เพื่อรับคำแนะนำและข้อควรปรับปรุง
6.นำคำแนะนำและข้อควรปรับปรุงในการทำโครงงานจากอาจารย์มาใช้ในการแก้ไขโครงงาน
7.ลงมือถ่ายทำและตัดต่อหนังสั้น
8.นำเสนอโครงงานและแก้ไขพัฒนาข้อบกพร่องต่อไป

ผลการดำเนินการ

     จากการที่ได้ลงมือศึกษาและทำโครงงานชิ้นนี้ทำให้พวกเราได้รับความรู้ในหลายอย่างๆ เช่น
1.รู้ถึงปัญหาความสะอาดในโรงเรียน สาเหตุที่เกิดปัญหา และทำให้เกิดกระบวนการคิดในการช่วยกันคิดหาแนวทางแก้ไขปัญหา
2.รู้ขั้นตอนวิธีทำหนังสั้น และสามารถนำความรู้ไปใช้ในการเพิ่มรูปแบบการนำเสนองานหน้าชั้นเรียนในวิชาอื่นๆให้มีความน่าสนใจมากขึ้นจากการศึกษาการทำหนังสั้น
3.ได้ลงมือปฏิบัติงานจริงในการเก็บแบบประเมิน ฝึกทักษะในด้านต่างๆได้จริง
4.ฝึกความรับผิดชอบ ความสามัคคีและการทำงานร่วมกัน

แหล่งเรียนรู้

1.ศึกษาจากรุ่นพี่ที่เคยมีประสบการณ์ในการทำหนังสั้น
2.ศึกษาจากเว็บไซต์ต่างๆหรือช่องทางอื่น เช่น youtube เป็นต้น
3.ศึกษาจากเว็บไซต์อาจารย์และปรึกษาอาจารย์ให้ช่วยแนะนำวิธีการทำหนังสั้น





วันอาทิตย์ที่ 28 มิถุนายน พ.ศ. 2558

การปฏิบัติตนเองให้สอดคล้องกับค่านิยมหลักคนไทย 12 ประการ

การปฏิบัติตนเองให้สอดคล้องกับ
ค่านิยมหลักคนไทย 12 ประการ

1. มีความรักชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ 
การปฏิบัติตน  :  ร้องเพลงชาติ สวดมนตร์ไหว้พระ ทำกิจกรรมหน้าเสาธงอย่างมุ่งมั่นตั้งใจ  ทำกิจกรรมในวันสำคัญทางศาสนา และวันพ่อแห่งชาติ วันแม่แห่งชาติ ฯลฯ
ร่วมหล่อเทียนพรรษาในวันสำคัญทางศาสนาที่โรงเรียนจัดขึ้น


2. ซื่อสัตย์ เสียสละ อดทน มีอุดมการณ์ในสิ่งที่ดีงามเพื่อส่วนรวม 
การปฏิบัติตน :   ไม่ลอกข้อสอบเพื่อน เข้าแถวต่อคิวซื้ออาหารกลางวันตามลำดับ และเมื่อโตขึ้นก็อยากเป็นครู ได้ถ่ายทอดวิชาความรู้ที่เรียนมาให้กับลูกศิษย์

3. กตัญญูต่อพ่อแม่ ผู้ปกครอง ครูบาอาจารย์ 
การปฏิบัติตน  :  ตั้งใจเรียนตามหน้าที่ ช่วยพ่อแม่ทำงานบ้าน แบ่งเบาภาระท่าน ช่วยในสิ่งที่ตนเองสามารถทำได้ ด้วยความสมัครใจ และตั้งใจสุดความสามารถ โดยที่ไม่ต้องให้พ่อและแม่เอ่ยปากขอให้ช่วย

พิธ๊ไหว้ครู


4. ใฝ่หาความรู้ หมั่นศึกษาเล่าเรียนทั้งทางตรง และทางอ้อม
การปฏิบัติตน  :   ตั้งใจเรียนในห้องเรียนและกลับมาทบทวนที่บ้าน  อ่านหนังสือทั้งแบบเรียนและหนังสือเตรียมสอบที่ซื้อมา ดูหนังหรือภาพยนตร์ที่มีข้อคิดปลูกฝังคุณธรรม และจริยธรรม

5. รักษาวัฒนธรรมประเพณีไทยอันงดงาม 
การปฏิบัติตน  :  ไหว้ผู้ใหญ่  พ่อแม่ครูอาจารย์ด้วยความเคารพ เข้าร่วมกิจกรรมในวันสำคัญต่างๆ

เข้าวัดทำบุญ 

ทำบุญ ตักบาตรกับครอบครัวในวันปีใหม่ของทุกๆปี

6. มีศีลธรรม รักษาความสัตย์ หวังดีต่อผู้อื่น เผื่อแผ่และแบ่งปัน 
การปฏิบัติตน  :  ไม่ลอกข้อสอบเพื่อน ให้เพื่อนยืมอุปกรณ์การเรียนเวลาที่เพื่อนลืมเอามาโรงเรียน

เล่นดนตรีเพื่อรับเงินบริจาคสมทบทุนซื้ออุปกรณ์การเรียนให้กับเด็กด้อยโอกาส


7. เข้าใจเรียนรู้การเป็นประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขที่ถูกต้อง 
การปฏิบัติตน  :  ศึกษาการเป็นประชาธิปไตยจากในบทเรียนและนำมาใช้ในการบริหารจัดการของห้องเรียน

8. มีระเบียบวินัย เคารพกฎหมาย ผู้น้อยรู้จักการเคารพผู้ใหญ่
การปฏิบัติตน  :  ทำตามกฎระเบียบของโรงเรียน เคารพครูอาจารย์และรุ่นพี่  ปฏิบัติตนตามกฎหมาย ไม่ทำ
ผิดกฎจราจร

9. มีสติรู้ตัว รู้คิด รู้ทำ รู้ปฏิบัติตามพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว 
การปฏิบัติตน  :  ไม่ประมาทในการใช้ชีวิต การเรียน การอ่านหนังสือ  ใช้ชีวิตอย่างพอเพียง

10. รู้จักดำรงตนอยู่โดยใช้หลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงตามพระราชดำรัสของ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รู้จักอดออมไว้ใช้เมื่อยามจำเป็น มีไว้พอกินพอใช้ ถ้าเหลือก็แจกจ่ายจำหน่าย และพร้อมที่จะขยายกิจการเมื่อมีความพร้อม เมื่อมีภูมิคุ้มกันที่ดี 
การปฏิบัติตน  ใช้ชีวิตอย่างพอเพียง ไม่ฟุ่มเฟือยจนเกินเหตุ ออมเงินใส่กระปุกออมสินทุกวัน


11. มีความเข้มแข็งทั้งร่างกาย และจิตใจ ไม่ยอมแพ้ต่ออำนาจฝ่ายต่ำหรือกิเลส มีความละอายเกรงกลัวต่อบาปตามหลักของศาสนา 
การปฏิบัติตน  :  ไม่เข้าสถานที่เที่ยวกลางคืน ไม่ยุ่งเกี่ยวกับอบายมุข

12. คำนึงถึงผลประโยชน์ของส่วนรวม และของชาติมากกว่าผลประโยชน์ของตนเอง
การปฏิบัติตน  :  ตั้งใจทำงานของส่วนรวมให้เสร็จสิ้นก่อน แล้วค่อยลงมือทำงานส่วนตัวในภายหลัง

ทำงานของส่วนรวมใหสำเร็จก่อนงานส่วนตัวเสมอ


นางสาวศศิธร  กาญจนกุล  เลขที่  18  ม.5/12  โรงเรียนสุราษฎร์พิทยา

วันพฤหัสบดีที่ 25 มิถุนายน พ.ศ. 2558

การบันทึกเป็นช็อต

การบันทึกเป็นช็อต
“ช็อต” คือการเริ่มบันทึก เพื่อเริ่มเทปเดินและเริ่มบันทึกลงม้วนเทป จนกระทั่งกดปุ่ม Rec อีกครั้ง เพื่อเลิกการบันทึก แบบนี้เค้าเรียกว่า 1 ช็อต การถ่ายเป็นช็อคไม่ควรปล่อยให้ช็อตไม่ควรปล่อยให้ช็อตนั้นยืดยาวไปนัก คือไม่ควรเกิน 5 วินาทีต่อ 1 ช็อต
วิธีการบันทึกเป็นช็อต
การถ่ายเป็นช็อตนี้ จะต้องเลือกมุม เลือกระยะที่จะถ่ายก่อน เลือกว่าจะถ่ายแบบไหนที่จะได้องค์ประกอบครบถ้วน ยกกล้องขึ้นส่อง จัดองค์ประกอบ แล้วถือให้นิ่ง กดบันทึก นับ 1-2-3-4-5 แล้วกดหยุด ในระหว่างกดบันทึกห้ามสั่น ห้ามไหวเด็ดขาด วิธีการไม่ยากนัก โดยให้รอจังหวะ หลักการง่ายๆคือนิ่งๆเข้าไว้ และไม่จำเป็นต้องถ่ายทั้งหมดหรือถ่ายยืดยาว เลือกแค่เป็นช็อตสำคัญก็พอ
รูปแบบการบันทึกเป็นช็อต
Shot ในความหมายของระยะการถ่ายทำภาพยนตร์อาจแบ่งจากลักษณะที่ใช้ในการถ่ายทำได้ดังนี้
1. ELS หรือ Extreme Long Shot เป็นการถ่ายภาพระยะไกลที่สุด เช่นเห็นเมืองทั้งเมือง ผืนป่าทั้งป่า หรือทะเลทรายกว้างสุดลูกหูลูกตา ซึ่งเป็นช็อตที่มักพบมากในหนังประเภท Epic หรือหนังมหากาพย์ที่เล่าเรื่องราวใหญ่โต จึงมีฉากที่แสดงความอลังการ อย่างไรก็ตามในหนังเพื่อศิลปะหลายเรื่องการถ่ายภาพในระยะนี้ก็ใช้เพื่อวัตถุ ประสงค์อื่นๆ เช่น ความไม่แน่นอน น่าสงสัย ความโดดเดี่ยว เปลี่ยวเหงา เช่นหนังของ มิเกลแองเจโล่ แอนโทนิโอนี่
2. LS หรือ Long Shot เป็นการถ่ายภาพระยะไกล พื้นที่ที่มากกว่าตัวละครทำให้เราใกล้ชิดกับฉากหรือทัศนียภาพมากกว่าความ รู้สึก ผลดังกล่าวทำให้ช็อตนี้มักใช้ในหนังเพื่อแสดงบรรยากาศเย็นชา หรือธรรมชาติที่ดูมีอิทธิพลเหนือผู้คน ในกรณีที่ใช้ถ่ายทำสถานที่เพื่อแนะนำเรื่องว่าเป็นฉากใด ซึ่งมักเป็นฉากเปิด งานทางด้านภาพยนตร์มักจะถ่ายฉากประเภทนี้เก็บไว้เพื่อความจำเป็นในการเล่า เรื่อง มักเรียกว่า Established Shot
3. MLS หรือ Medium Long Shot ช็อตที่อยู่ระหว่างระยะไกล และระยะ MS มักถ่ายเพื่อเปิดให้เห็นบุคคล กับวัตถุประสงค์ที่ต่างกันไป เช่น หมู่คณะหลายคน, ภาพคนกับพื้นที่ปิด หรือพื้นที่เปิด ซึ่งก็ให้ความหมายของภาพต่างกัน
4. MS หรือ Medium Shot เป็นช็อตที่ได้รับความนิยมที่สุด เพราะใช้ในการดำเนินเรื่อง และสนทนา ภาพออกมาอยู่ในระดับที่สบายตา โดยธรรมชาติของช็อตแบบนี้ไม่เน้นอารมณ์ร่วมกับผู้ชม แต่เน้นให้เพื่อใช้สำหรับเล่าเรื่อง ฉากการสนทนา บ้างก็เรียกว่า Two Shot คือเป็นช็อตที่ถ่ายให้เห็นคนสองคนทั้งตัว ไปจนระดับลำตัวถึงหัว
5. MCU หรือ Medium Close Up กึ่งกลางระหว่าง MS กับ Close Up เป็นอีกหนึ่งช็อตที่เรามักเห็นบ่อยๆ ในการถ่ายทำภาพยนตร์สำหรับผู้ชมวงกว้าง
6. CU หรือ Close Up ระยะใกล้ เป็นระยะที่เน้นอารมณ์ความรู้สึกตัวละครเป็นหลัก ไม่ว่าจะโกรธ เศร้า ดีใจ และใบหน้าของมนุษย์ยังแสดงอารมณ์ได้หลากหลาย ช็อตนี้ตัวอย่างที่มักได้รับการกล่าวถึงบ่อยคือ City Light ของ ชาร์ลี แชปลิน ตลอดทั้งเรื่องเราเห็นอารมณ์ขันของเขาในระยะไกล หรือระยะกลางภาพ แต่เมื่อช่วงท้ายต้องการเร้าอารมณ์ตัวละครหลักได้ถูกจับภาพใบหน้าเป็นครั้ง แรก มันจึงส่งผลให้เราคล้อยตามได้
7. ECU หรือ Extreme Close Up ระยะใกล้มาก เป็นระยะภาพที่เน้นความรู้สึกในระดับที่สูงขึ้นกว่า CU เช่น ถ่ายภาพดวงตาในระยะประชิด หรืออวัยวะบางอย่างเพื่อแสดงอากัปกิริยาที่มีนัยยะต่างไปจากการแสดงออกอย่าง อื่น เพราะการส่งผลทางภาพที่ให้อารมณ์สุดโต่ง เราจึงมักเห็นช็อตนี้ในหนังสยองขวัญ หนังทดลอง หรือหนังทางด้านศิลปะบ่อยกว่าหนังสำหรับผู้ชมทั่วไป

ที่มา : http://mis.kkw.ac.th/index.php/short-film/30-2014-05-16-07-17-56

การแพนกล้อง


การแพนกล้อง

     การแพนกล้องที่ดีต้องมีจังหวะที่จะแพน คือต้องมีจุดเริ่มและจุดสิ้นสุดของการแพน จุดนี้เองคนที่อยู่เบื้องหลังคอยตัดต่อภาพทั้งหลายมันเป็นเรื่องยุ่งยากที่จะตัดต่อภาพ โดยมีภาพทีแกว่งไปแกว่งมา หรือวูบวามไปมา เมื่อนำมาร้อยใส่ภาพนิ่งๆจะรู้สึกได้เลยว่าไม่เข้ากัน พลอยทำให้ดูไม่รู้เรื่องเข้าไปใหญ่ ไม่นิ่มนวลสมจริง บางครั้งรู้สึกว่าโดดไปโดดมา หากจะให้ตัดต่อได้สะดวกและภาพสมบูรณ์ การแพนจะต้องมีจุดเริ่ม คือเริ่มจากถือกล้องให้นิ่งเสียก่อน จากนั้นกดปุ่มบันทึกภาพแล้วค่อยแพน และจุดจบ คือนิ่งทิ้งท้ายตอนจบอีกเล็กน้อย เพื่อบอกคนดูให้เตรียมพร้อมและพักสายตาระหว่างชมภาพ

ที่มา : http://mis.kkw.ac.th/index.php/short-film/30-2014-05-16-07-17-56

เทคนิคการซูมและการโฟกัส

เทคนิคการซูมและการโฟกัส


  1. ในขณะที่ซูมไม่ควรเดินหรือเคลื่อนไหว เพราะจะทำให้วีดีโอที่ได้มีโอกาสสั่นไหวสูง
  2. หากต้องการเคลื่อนที่ด้วยขณะซูม ขอแนะนำให้ดึงซูมออกมาให้สุดก่อน แล้วค่อยกดปุ่มบันทึก จากนั้นให้เดินเข้าไปแทนการซูมเลนส์
  3. อย่าสนุกกับการซูมจนมากเกินไป เพราะส่วนใหญ่ผู้ที่เพิ่มเริ่มเล่นกล้องมักจะชอบดึงซูมเข้า/ออก ทำให้ภาพที่ได้น่ามึนหัว เหมือนกำลังกระแทรกกำแพงโป๊กๆที่จริงแล้วการซูมจะทำเมื่อต้องการดูรายละเอียดของเหตุการณ์ เพื่อบ่งบอกเรื่องราว หรือซูมออกเพื่อแสดงภาพรวมของเหตุการณ์นั้นๆ พูดง่ายๆ จะซูมก็ควรมีเหตุมีผลมีเรื่องราวที่จะเล่าจากการซูมจริงๆ
  4. ควรหยุดซูมเสียก่อนค่อยเคลื่อนไหวกล้อง หรือซูมก่อนบันทึกภาพ จุดนี้จะช่วยให้วีดีโอที่ได้น่าสนใจมากขึ้น เช่น การถ่ายภาพวิวทิวทัศน์ในท้องทะเล อาจจะตั้งกล้องซูมเข้าไปที่เรือจากนั้นกดปุ่มบันทึก แล้วค่อยๆซูมออกมาให้เห็นท้องทะเล

ที่มา : http://mis.kkw.ac.th/index.php/short-film/30-2014-05-16-07-17-56

เทคนิคมุมกล้อง

เทคนิคมุมกล้อง


การถ่ายภาพในมุมที่ต่างกัน ยังมีผลต่อความคิดความรู้สึกที่จะสื่อความหมายไปยังผู้ดูได้ เราอาจแบ่งมุมกล้องได้เป็น 3 ระดับ คือ
  1. ภาพระดับสายตา คือ การถ่ายภาพในตำแหน่งที่อยู่ในระดับสายตาปรกติที่เรามองเห็น ขนานกับพื้นดิน ภาพที่จะได้จะให้ความรู้สึกเป็นปรกติธรรมดา
  2. ภาพมุมต่ำการถ่ายภาพในมุมต่ำ คือ การถ่ายในต่ำแหน่งที่ต่ำกว่าวัตถุ จะให้ความรู้สึกถึงความสูงใหญ่ ยิ่งใหญ่กว่าความเป็นจริง แสดงถึงความสง่า
  3. การถ่ายภาพมุมสูง คือ การตั้งกล้องถ่ายในต่ำแหน่งที่สูงกว่าวัตถุ ภาพที่ได้จะให้ความรู้สึกถึงความเล็กความต้อยต่ำ ไม่มีความสำคัญ

ที่มา : http://mis.kkw.ac.th/index.php/short-film/30-2014-05-16-07-17-56

วันพุธที่ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2558

เทคนิคการถ่ายวิดีโอ

เทคนิคการถ่ายวิดีโอ

ปัจจุบันกล้องวีดีโอมีอยู่หลายประเภท เช่น แบบ Handycam(กล้องขนาดเล็ก)  กล้องแบบมืออาชีพ(ขนาดใหญ่) แต่หลักการและเทคนิคการถ่ายจะเหมือนๆกัน
ก่อนอื่นเรามาทราบถึงประเภทของสื่อที่ใช้บันทึกภาพของกล้องวีดีโอก่อนว่าปัจจุบันมีอยู่กี่แบบ
1.แบบใช้ม้วนเทป  ปัจจุบันเหลือเพียง miniDV   เป็นส่วนใหญ่
2.แบบใช้แผ่น  ซึ่งจะใช้แผ่น mini DVD เป็นตัวเก็บข้อมูล
3.แบบใช้ Hard Disk ปัจจุบันมีให้เลือกหลายขนาดของความจุ เช่น 30 GB, 60 GB ต้น
4.แบบใช้ Memory card  เช่น SD,  Memory Stick, XDcard  เป็นต้น

https://joynaka23.wordpress.com/%E0%B8%9A%E0%B8%97%E0%B9%80%E0%B8%A3%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%99/%E0%B8%84%E0%B8%A7%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B8%A3%E0%B8%B9%E0%B9%89%E0%B9%80%E0%B8%81%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%A2%E0%B8%A7%E0%B8%81%E0%B8%B1%E0%B8%9A%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%97%E0%B8%B3%E0%B8%A0/